dcd8bf30e7bf45fe8ecdd3f82c79ddfd Food for health: สิงหาคม 2010

ไข่ปลาคาเวียร์ โคตรแพง food for health

ไม่มี ปลาชื่อคาเวียร์หรอกครับ

แต่เจ้าของไข่ปลาคาเวียร์ ที่โคตรแพง คือ ปลาสเตอร์เจียน
ปลาสเตอร์เจียน (Sturgeon) ปลากระดูกแข็งขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ในอันดับปลาฉลามปากเป็ด Acipenseriformes อาศัยได้อยู่ทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย และทะเล เมื่อยังเล็กจะอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด ทะเลสาบหรือตามปากแม่น้ำ แต่เมื่อโตขึ้นจะว่ายอพยพสลงสู่ทะเลใหญ่ และเมื่อถึงฤดูวางไข่ก็จะว่ายกลับมาวางไข่ในแหล่งน้ำจืด
สเตอร์ เจียน เป็นปลาที่มนุษย์ใช้เป็นอาหารมานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งไข่ปลา ที่เรียกว่า ไข่ปลาคาเวียร์ (Caviar) ซึ่งนับเป็นอาหารราคาแพงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
สเตอร์ เจียน มีรูปร่างคล้ายปลาฉลาม มีหนามแหลมสั้น ๆ บริเวณหลังและเส้นข้างลำตัว (Llateral line) มีหนวดทั้งหมด 2 คู่อยู่บริเวณปลายจมูก ปลายหัวแหลม ปากอยู่ใต้ลำตัว หากินตามพื้นน้ำโดยอาหารได้แก่ สัตว์น้ำขนาดเล็กต่าง ๆ สเตอร์เจียนจะพบแต่เฉพาะซีกโลกทางเหนือซึ่งเป็นเขตหนาวเท่านั้น ได้แก่ ทวีปเอเชียตอนเหนือ ทวีปยุโรปตอนเหนือ ทวีปอเมริกาเหนือตอนเหนือ สถานะปัจจุบันของปลาชนิดนี้ในธรรมชาติใกล้สูญพันธุ์เต็มที แต่ปัจจุบันสามารถเพาะขยายพันธุ์ได้แล้วในบางชนิด
สเตอร์เจียน มีทั้งหมด 27 ชนิด (Species) ใน 3 สกุล (Genus) โดยชนิดที่ใหญ่ที่สุดคือ สเตอร์เจียนขาว (Huso huso) พบในรัสเซีย สามารถโตเต็มที่ได้ถึง 5 เมตร หนักกว่า 900 กิโลกรัม และมีอายุยืนยาวถึง 210 ปี นับเป็นปลาที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลก เท่าที่มีการบันทึกมา และเป็นชนิดที่ให้ไข่รสชาติดีที่สุดและแพงที่สุดด้วย ส่วนชนิดที่เล็กที่สุดคือ สเตอร์เจียนแคระ (Pseudoscaphirhynchus hermanni) ที่โตเต็มที่มีขนาดไม่ถึง 1 ฟุตเสียด้วยซ้ำ
นอกจากนี้แล้ว สเตอร์เจียนยังนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามอีกด้วย
คาเวียร์ หรือบางทีจะเรียก ไข่ปลาคาเวียร์ (caviar) เป็นไข่ปลาที่ผ่านการปรุงรสโดยไข่มาจากปลาหลากหลายประเภท โดยส่วนมากนิยมนำมาจากไข่ปลาสเตอร์เจียน คาเวียร์ได้มีการโฆษณาและได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่อร่อยที่สุดใน โลก คำว่า คาเวียร์มาจากภาษาเปอร์เซีย ว่า ???‌??? (Khag-avar) ซึ่งมีความหมายว่า "ไข่ปลาที่ปรุงรส" โดยในแถบเปอร์เซียจะใช้หมายถึงปลาสเตอร์เจียน
ใน ปัจจุบัน คาเวียร์ที่มีชื่อเสียง จะมาจากฝั่งทะเลแคสเปียน ในแถบอาเซอร์ไบจัน อิหร่าน และ รัสเซีย คาเวียร์มีหลายประเภทและหลายสี โดยคาเวียร์สีทอง ที่มาจากปลาสเตอร์เลต (sterlet) เป็นคาเวียร์ที่หายาก นิยมรับประทานกันในหมู่กษัตริย์ โดยในปัจจุบันคาเวียร์ชนิดนี้แทบจะหาไม่ได้เนื่องจากมีการล่ามากจนเกินไป และทำให้เกิดการสูญพันธุ์

ไข่ปลาคาเวียร์แพงที่สุดในโลก ไม่ได้มีสีดำอย่างที่หลายท่านคุ้นเคย  แต่เป็นชนิดที่มีสีเทาอ่อนๆ ไล่ลงมาจนเกือบขาวตามอายุของปลา ยิ่งปลาอายุมากไข่ก็จะมีสีอ่อนลง และมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ


ไข่ปลาคาเวียร์อัลมาส (ภาษาเปอร์เซี่ยนแปลว่า "เพชร")ที่ได้มาจากปลา"เบลูก้า สเตอเจียน" อายุหนึ่งร้อยปีขึ้นไป ถือเป็นไข่ปลาคาเวียร์ที่หายากที่สุด และมีราคาแพงที่สุด โดยมีราคาสูงถึงเกือบ 25,000 เหรียญสหรัฐต่อ 1 ก.ก. (ประมาณ 850,000บาท/ก.ก.)  ในขณะที่ราคาเฉลี่ยของเบลูก้า คาเวียร์ โดยทั่วไปในปัจจุบันจะอยู่ที่ 7,000 - 10,000เหรียญสหรัฐต่อ 1 ก.ก.(ราว 2.38 -3.4 แสนบาท/ก.ก.)
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี  

Food for health ขอนำเสนอสูตรยาดี

Food for health ขอนำเสนอ
สรรพคุณของพืขผักแต่ละชนิดว่ามีคุณประโยชน์ต่อการรักษาได้อย่างไรไว้ในหนังสือชื่อยามหัศจรรย์สำหรับคุณเช่น
1. ปวดหัว กินปลามากๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด
น้ำมันจากปลามีสรรพคุณป้องกันการปวดหัว กินพร้อม ๆ กับขิง จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลง
2. แพ้ละออง เป็นแพ้ทั้งฝุ่นและเกสรดอกไม้ ให้กินโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยว
3.โรคหัวใจ ดื่มชาเขียว เป็นประจำ สารในชาเขียวช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด
4. โรคนอนไม่หลับ ดื่มน้ำผึ้ง เป็น ประจำ สารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาททำให้นอนหลับฝันดี
5. โรคหืดหอบ กินหอม ต้นหอม หรือ หัวหอม ก็ได้มีตัวยาทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง
6. โรคไขข้ออักเสบ กินปลาเท่านั้น แก้ไขเป็นปกติได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า(ปลาโอ) ปลาแมคเคอเรล ปลาซาดีนส์ ( ปลากระป๋อง )น้ำมันปลาทำให้โรคไขข้ออักเสบบรรเทาลง
7. ท้องผูก ท้องอืด ให้กินกล้วย หรือ ขิง กล้วยทำให้ไม่ท้องผูกและขิงทำให้อาการคลื่นไส้ในตอนเช้าหายไป
8. ติดเชื้อในถุงกระเพาะปัสสาวะ ให้ กินน้ำคั้นจากลูกแคนเบอรี ( ไม้เมืองหนาว)กรดเข้มข้นในลูกไม้ฆ่าแบคทีเรียได้
9. โรคหงุดหงิด ฟุ้งซ่านโดยเฉพาะเกิดในผู้หญิงสูงอายุด้วย ให้กินข้าวโพดช่วยบรรเทาอาการเครียด วิตกกังวล และความคิดสับสนได้
10. โรคกระดูกพรุน ทั้งกระดูกเปราะและแตกง่าย แก้ไขได้โดยให้กินสับปะรดซึ่งมีสารแมงกานีสอยู่มาก ช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้
11. ความจำเสื่อม แก้ไขโดย กินหอยนางรม หอยแครงหรือหอยอื่น ๆซึ่งในเนื่อหอยมีสารสังกะสีช่วยบำรุงสมองได้ดี
12. เป็นหวัด กินกระเทียม ทำให้จมูกโปร่ง สมองโล่ง กระเทียมช่วยลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย
13. ไอ จาม กินพริกแดง สารที่นำมาทำยาแก้ไอนั้นสกัดมาจากพริกแดง
14. มะเร็งเต้านม กินข้าวสาลี รำข้าว และกะหล่ำปลีจะช่วยป้องกันได้ดีโดยเฉพาะรำข้าว กะหล่ำปลีช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนได้ในปริมาณที่เหมาะสม ข้อสำคัญอย่ากินไก่มาก เพราะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในการเร่งการเจริญเติบโต
15. มะเร็งปอด กิน ส้ม และ ผักใบเขียว มีวิตามินเออยู่มากจะช่วยป้องกันการก่อพิษของสารเบต้าแคโรทีน
16. แผลในกระเพาะอาหาร กินกะหล่ำปลีซึ่งมีสารเคมีช่วยทำให้แผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กหายขาดได้
17. โรคท้องร่วง กินแอปเปิ้ลสดทั้งเปลือก ช่วยให้อาการปั่นป่วน ในท้องเมื่อเชื้อโรคบิดเล่นงานทุเลาลง
18. เส้นเลือดตีบ กินผลอโวคาโด แก้ได้เพราะไขมันดี "โมโรอันแซตเทอเรต"ที่มีอยู่ในผลไม้ชนิดนี้ทำลายไขมันเลว ‘ คลอเลสเตอรอล ‘ ได้
19. ความดันโลหิตสูง กินผลโอลีฟ และผักขึ้นฉ่าย พืชทั้งสองชนิดนี้มีสารเคมีทำให้ระดับความดันเลือดลดลง
20. น้ำตาลในเลือดไม่สมดุล กินผักบร็อกโรลี่ และถั่วลิสง ซึ่งมีอินซูลินทำให้น้ำตาลในเลือดสมดุลได้
Food for health ขอนำเสนอ พืชผักที่กินเป็นอาหารประจำวันนั้นนอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังมีสรรพคุณช่วย สร้างความสมดุลภายในร่างกายช่วยป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่างๆได้ ถ้าได้เรียนรู้ที่จะรู้จักเลือกกินให้เหมาะกับตนเอง
Food for health ขอนำเสนอ คุณประโยชน์ของพืชสมุนไพร
       โดยเฉพาะพืชสมุนไพรไทยนั้นนับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทยเป็น ภูมิปัญญาชาวบ้านในท้องถิ่นอันควรปกป้องหวงแหนและอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกแก่ ลูกหลานไทยขอให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนต่างชาติที่จ้องฉกฉวยผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของเราไปเป็นของตนทุกวิถีทาง ดังนั้นอนุชนรุ่นหลังจึงควรที่จะได้นำมาศึกษา ค้นคว้าและคิดค้นตามแนวทางที่บรรพบุรุษของเราท่านได้วางพื้นฐานไว้ให้เพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในด้านโภชนาการของคนไทยต่อไป.
อาการของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
1. มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณ อาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูดเนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้
2. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อง
3. มะเร็งรังไข่ อาการประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการ ปวดหลัง
4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย)อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว
หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาหารปวดตามข้อ ต่าง ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง
5. มะเร็งปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆมีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ เจ็บหน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
6. มะเร็งตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัด จนเห็นได้ชัด
7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ
8. มะเร็งสมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆและมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่าและเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ
การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราว
ควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย
9. มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำ หรือเป็นเวลานาน
10. มะเร็งในลำคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันทีมีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบากหรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึกได้
11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวด เร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย บ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ
12. มะเร็งทรวงอก อาการมีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้นมีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้ บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานานควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10คน จะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอก โดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่าซีสต์ ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกันแน่
13. มะเร็งลำไส้ อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติมีเลือดออกปนมากับอุจจาระ
**** ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคืออาการของริดสีดวงทวาร แต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่นคือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้
14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้เกิดอาการติดเชื้อในบางส่วนของร่างกาย
15. มะเร็งผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝหรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา(Melanoma) คือเนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่นกระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อนคุณจะมีอัตราเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ
Food for health ขอนำเสนอสูตรยาดี ขอให้ท่านนำเรื่องนี้ไปบอกต่อเป็นวิทยาทาน ท่านจะโชคดีมีความสุขตลอดกาล
ตำรานี้ใช้แก้โรคมะเร็งผู้เป็นมะเร็งจะหายโดยไม่คาดคิด สำหรับมะเร็งจะหายภายใน 6 วัน
วิธีรักษาไปที่ร้านยาจีน ซื้อหัวเตย 1 ตำลึง หัวขิง 1 ตำลึง ก้อนเกลือ 3 ก้อน
นำมารวมกันแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 1 วัน ในน้ำ 1 ชาม จากนั้นให้ดื่มจนหมดชาม
สรรพคุณในการรักษา – หลังจากดื่มยานี้แล้วควรดื่มน้ำตามมาก ๆนำส่วนที่เหลือมารับประทาน ยานี้จะขับเอาของเสียออกทางอุจจาระหรือปัสสาวะไม่ต้องตกใจ เป็นการขับของเสียออกหมดแล้วจะปกติ
Food for health ขอนำเสนอสูตรยาดี*** ตำรานี้ห้ามซื้อขาย หรือคิดเป็น เงินค่ารักษาและขออย่าได้เก็บไว้เป็นส่วนตัวโดยเด็ดขาดหากท่านผู้อื่นรับทราบด้วยใจศรัทธาและกุศลจิตของท่าน
ท่านและครอบครัวจะประสบแต่ความสุข ความสมหวังทุกประการ

Food for health (power love อาหารเพื่อพลังรัก erotic หน่อยๆ)

อาหารเพื่อพลังรัก
คุณรู้ไหมว่ากิจกรรมอะไรที่มนุษย์ทำบ่อยครั้งสูสีกับการร่วมรัก? จากการสำรวจและวิจัยของมหาวิทยาลอสแองเจลิส (UCLA) ล่าสุดพบว่า คือการรับประทานอาหารของเรานี่แหละ มิหนำซ้ำ หนุ่ม-สาวหลายคู่ นิยมจะปากเปื้อนและอิ่มท้องก่อนร่วมรักจนชินเป็นนิสัย เพื่อจะได้เปิดฉากแนบชิดได้อย่างยาวเหยียดสะใจ แต่เคยมีใครคิดไตร่ตรอง เลือกรับประทานว่า สิ่งไหนจะเป็นประโยชน์หรือให้โทษในทางรักบ้าง? กระทั่งต่างฝ่ายต่างมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ถึงจะหันกลับไปพิจารณาถึงสิ่งต่างๆ ที่เอาใส่ปาก ซ้ำร้าย และเมื่อพยายามจะขจัดส่วนเกินด้วยการทุ่มเทกับงานรักตรงหน้าให้มากขึ้นก็ กลายเป็นว่าสายเกินแก้ไปซะแล้ว 
- ผักขึ้นฉ่าย
ขึ้นฉ่าย ถือเป็นผักเสริมบารมีให้อาหารจานนั้นมีรสชาติรุ่มร้อนขึ้น มีกลิ่นฉุนขึ้นเพื่อดับความคาว และมีสีเขียวอ่อนนวลตาสร้างความน่ารับประทาน ยิ่งไปกว่านั้น ยังกระตุ้นแรงปรารถนาภายในให้ไต่ระดับสูง และพร้อมจะมีความสุขสมกับเพศตรงข้ามได้อย่างทันทีทันควัน ไม่ว่าจะประกอบอาหารด้วยการต้ม ผัด แกง หรือทอด ขึ้นฉ่ายก็สามารถสร้างแรงรักได้ทั้งสิ้น แต่ถ้าจะให้ผลลัพธ์ดีที่สุดควรทานดิบๆ เป็นเครื่องเคียงของอาหาร เพราะร่างกายจะได้สารกระตุ้นรัก (Androsterone) เข้าไปเต็มๆ ที่สำคัญสารชนิดนี้ยังรวมตัวผสมเหงื่อออกมาอีกในขณะร่วมรัก แม้คุณและฝ่ายตรงข้ามจะไม่ได้กลิ่น แต่นี่เหมือนเป็นหมัดเด็ดของ Androsterone ในการกระตุ้นความต้องการเป็นระลอกที่ 2
- หอยนางรมสด
นี่ คือเมนูกระตุ้นรักในตำนานตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ เหตุที่หอยนางรมสดเป็นกุญแจแนบชิดดอกสำคัญก็เพราะว่า สัตว์น้ำชนิดนี้มีธาตุสังกะสีซ่อนอยู่ในตัวค่อนข้างเยอะ สังกะสีนี่เอง เมื่อบริโภคเข้าไปแล้วจะช่วยให้สเปิร์มแข็งแรงและมีปริมาณมากขึ้น รวมทั้งกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนโดปามีน (Dopamine) ซึ่งช่วยให้เกิดความอยาก ต้องแน่ใจว่า หอยนางรมสดนั้นทำความสะอาดแล้ว ไม่อย่างงั้นอาจถูกเชื้อโรคเล่นงานจนท้องเสียได้ ส่วนเครื่องเคียงอย่างพวก ยอดกระถิน หอมเจียว หรือน้ำพริกเผา งานนี้คงต้องโบกมือบ๊ายบายไปก่อน ใช้เพียงมะนาวบีบใส่แล้วกระดกใส่ปากเป็นพอ จะได้ไม่มีกลิ่นปากออกมาขัดขวางทางรัก ที่สำคัญ อย่าลืมป้อนหอยนางรมแบบปากต่อปากเป็นอันขาด เพราะเป็นเทคนิคกระตุ้นความอยาก ที่ใช้ได้ผลมานักต่อนัก
- กล้วยหอมจอมซน
นอกจากจะถูกใช้แทนสัญลักษณ์ของเพศชายจนรู้จักไปทั่วแล้ว กล้วยหอมคือขุมพลังรักที่หนุ่ม-สาวหลายคนมองข้าม เพราะผลไม้ปอกเปลือกง่ายและกินได้ไวชนิดนี้มีเอนไซม์โดปามีน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นความปรารถนาอย่างได้ผล รวมทั้งมีสารอาหารอย่างโปแตสเซียมและวิตามิน ที่ช่วยให้อึดและยืนหยัดบนสังเวียนรักได้นานๆ เพื่อพลังรัก เริ่มจากวิธีกินตามปกติโดยต่างคนต่างกิน แล้วค่อยสร้างสรรค์วิธีละเลียดแบบใหม่ๆ โดยฝ่ายหญิงสามารถวางกล้วยเคียงข้างน้องชาย ก่อนจะค่อยๆ สลับกันกลืนกินไปจนหมด สำหรับฝ่ายชายก็เช่นกัน ลองบรรจงวางกล้วยหอมไว้ใกล้ๆ กับน้องสาว แล้วบรรจงขบและแทะกลืนลงคอไปทีละน้อยจนกว่าจะหมดผล แรงสัมผัสที่เกิดขึ้นจะทำให้อารมณ์ภายในของต่างฝ่ายต่างพลุ่งพล่าน และต้องจับคู่เพื่อปลดปล่อยให้สำเร็จ
- อาโวกาโด
ผลไม้ดึกดำบรรพ์จากป่าทึบประเทศเม็กซิโก มีรูปร่างหน้าตาเหมือนลูกอัณฑะผู้ชายเปี๊ยบ จนชาวเผ่าแอซเท็คโบราณแห่งอเมริกาใต้ ขนานนามอาโวคาโดว่า “ผลอัณฑะ” (Testicle Tree) แต่เนื้อในกลับมีคุณค่าควรแก่การรับประทาน เพราะมีสารอาหารมีประโยชน์ทั้งกรดโฟลิกที่ช่วยในการย่อยสลายโปรตีน วิตามินบี 6 ช่วยกระตุ้นฮอร์โมนภายในร่างกาย และโปแตสเซียมซึ่งช่วยกระตุ้นปรารถนาในเพศหญิงได้เป็นอย่างดี เพื่อพลังรักด้วยวิธีเปิดอาโวคาโดเพื่อเปิดทางรักนั้นแสนง่าย นำผลอาโวคาโดที่แช่เย็นฉ่ำออกมาจากตู้เย็น ก่อนจะใช้มีดผ่าครึ่งออกมาเป็น 2 ซีก คุณและหล่อนจะเห็นเนื้อสีเขียวอ่อนของมันเผยออกมายั่วยวน จากนั้นค่อยๆ ใช้นิ้วชี้กดและควักเอาเนื้อออกมาทีละน้อย และบรรจงผลัดกันป้อนไปเรื่อยๆ ความเย็นและความลื่นของเนื้ออาโวคาโดจะค่อยๆ ไหลลงลำคอ สร้างความรู้สึกเสียวซ่านมากขึ้น...มากขึ้น กระทั่งคุณและคนข้างๆ ห้ามใจเอาไว้ไม่ไหว
- อัลมอนด์
ที่ ไม่เลือกถั่วลิสงมาบำรุงก่อนขึ้นสังเวียนรักเพราะมีคุณค่าเพียงให้พลังงาน เพิ่มขึ้น และตบท้ายด้วยกลิ่นอันไม่พึงปรารถนา ต่างจากเมล็ดอัลมอนด์ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า ให้ทั้งพลังงานแก่ร่างกาย กระตุ้นให้เกิดการสร้างฮอร์โมนความต้องการในเพศชายเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญกลิ่นของอัลมอนด์เมื่อบิออกมาแล้วถือเป็นกุญแจสร้างความอยากอย่างมี ประสิทธิภาพ ส่งผลให้ต้องแปรเปลี่ยนความในออกมาเป็นพฤติกรรมรัญจวนใจ
ไม่ต้องเอาไปคั่ว ไม่ต้องเอาไปบด และไม่ต้องจัดการปรุงรสโดยคลุกกับเกลือ เพียงเมล็ดอัลมอนด์จะทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพในแบบดั้งเดิมคือ ดิบๆ หรือถ้าคุณและหล่อนเบื่อที่จะกินเปล่าๆ ก็สามารถประยุกต์ใส่กับสลัดผักชนิดต่างๆ แล้วคลุกเคล้ากันให้ทั่ว ก่อนจะผลัดกันเสิร์ฟคนละคำก็น่ารักไม่เบาเหมือนกัน
- มะม่วง, พีช และสตรอเบอร์รี่
อากาศ ร้อนๆ อย่างนี้จะทำอะไรมีความสุขไปกว่าการได้กินผลไม้เนื้อแน่นและฉ่ำด้วยน้ำหวานๆ อย่างมะม่วง พีช และสตรอเบอร์รี่อีกล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นการกลืนกินผลไม้ทั้ง 3 ชนิดข้างต้นยังช่วยกระตุ้นอารมณ์ต้องการได้เป็นอย่างดี เนื่องจากลักษณะรูปทรงของผลไม้เหล่านี้ไม่ต่างจากส่วนสัดบนเรือนร่างมนุษย์ ส่วนเนื้อด้านในที่แน่นและมีเส้นใยอาหารแตกต่างกัน ยังกระตุ้นการรับรสของลิ้นได้เป็นอย่างดีอีกต่างหาก ห้ามเฉาะออกมาเป็นชิ้นเหลี่ยม แต่ให้บรรจงฝานออกมาเป็นแผ่นบางๆ ทั้งมะม่วง ผลพีช หรือสตรอเบอร์รี่ก็ตาม ก่อนจะฝ่ายหนึ่งจะใช้ริมฝีปากคาบเอาไปป้อนถึงลิ้นของอีกฝ่ายหนึ่ง รสหวานและความฉ่ำในตัวของผลไม้จะกระตุ้นต่อมรับรสบนลิ้นอย่างฉับพลัน และส่งผลตรงไปถึงสมองให้แสดงความรู้สึกซาบซ่านออกมา ซึ่งไม่ต่างจากเวลาที่หนุ่ม-สาวร่วมรักแล้วจูงมือกันไปถึงจุดสุดยอด ไม่เชื่อก็ลองซะด้วยตัวเองและคู่ควงเดี๋ยวนี้!
- ไข่ไก่
ถึง จะดูแล้วเป็นอาหารแบบพื้นๆ แต่ไข่ที่ดูธรรมดาๆ นี่ล่ะ กลับให้วิตามินบี 6 และบี 5 ในปริมาณค่อนข้างสูงสูสีกับอาหารกระตุ้นรักประเภทอื่น ที่สำคัญการได้รับวิตามินทั้ง 2 อย่างพร้อมๆ กัน นอกจากจะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนสร้างความต้องการทางเพศมากขึ้นแล้ว ยังช่วงความความเครียดหรือความตื่นตระหนักในขณะร่วมแนบชิด ส่งผลให้คุณและหล่อนเดินเครื่องรักเข้าหากันได้อย่างสนุก โดยไม่มีฝ่ายใดอ่อนเปลี้ยไปเสียก่อน ช่วงนี้ไข้หวัดนกกำลังระบาด เชื้อ H5N1 ออกอาละวาดไปทั่ว ดังนั้น อย่าได้คิดเพิ่มความฟิตด้วยไข่ดิบหรือไข่ลวกเป็นอันขาด ทางที่ดีควรทำให้สุกเสียก่อน ถึงจะสูญเสียวิตามินตัวสำคัญๆ ไปบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง ยิ่งไปกว่านั้น ในไข่นกและไข่ปลาก็มีคุณสมบัติไม่แพ้ไข่ไก่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นไข่นกกระทาหรือไข่ปลาคาเวียร์ ล้วนมีคุณค่าด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ต้องระวังเรื่องคอเลสเตอรอลควบคู่กันไปด้วย
- ตับ
เวลา ยังไม่ผ่านกระบวนการประกอบอาหาร หน้าตาดูน่าขยะแขยงยังไงก็ไม่รู้ แต่พอเอาไปต้มเป็นแกง ลวกกินแบบสุกี้ หรือผัดกับผักชนิดต่างๆ แล้วอร่อยเด็ดเหลือเกิน ความพิเศษของตับอาจต่างจากอาหารเพิ่มพลังรักประเภทอื่นๆ เพราะมีส่วนประกอบของกลูตามีนมากเป็นพิเศษ เจ้าสารชนิดนี้ไม่ได้ช่วยเพิ่มระดับความปรารถนาใดๆ แต่มันกลับช่วยให้ยันให้ความต้องการไต่ค้างอยู่ในระดับสูง โดยไม่ตกลงมาอย่างฮวบฮาบกลางคัน เพราะมีกลิ่นคาวมากกว่าอวัยวะส่วนอื่นๆ แถมวิธีปรุงต้องใส่เครื่องเทศรสร้อนแรง อาหารที่มีตับเป็นส่วนประกอบจึงไม่เหมาะจะนำมารับประทานในห้องนอนเป็นอันขาด นอกจากจะตั้งบนโต๊ะเป็นกับรับประทานกับข้าวร้อนๆ ตอนเย็น ก่อนจะเว้นช่วงพักให้ตับถูกย่อย พร้อมๆ กับกลิ่นเครื่องเทศที่เจือจากไปจากปาก แล้วคุณทั้งสองถึงค่อยหันหน้าเข้ามาจ้ำจี้มะเขือเปาะกันให้สะใจ
- กระเทียม
ใช่...นี่ คือสิ่งที่ผีดูดเลือดอย่างแดร็กคูล่ากลัวนักกลัวหนา และใช่อีกล่ะว่านี่คือสิ่งสร้างกลิ่นปากและลมหายใจอันไม่พึงปรารถนา แต่กระเทียมถูกค้นพบและพิสูจน์วิจัยในวงการแพทย์แล้วว่า สามารถเพิ่มระดับความต้องการของหญิงและชายได้แน่ๆ เพราะส่วนประกอบที่ชื่อว่าอัลลิซิน (Allicin) จะช่วยให้การไหลเวียนของกระแสโลหิตในหลอดเลือดคล่องตัวยิ่งขึ้น คุณและหวานใจจึงเกิดความตื่นตัวและพร้อมจะตอบสนองกับเรื่องอย่างว่าอยู่เสมอ เตรียมตัวเตรียมเงินซื้อเม็ดอมดับกลิ่นปากรสมิ้นท์มาตุนเอาไว้เลย ถึงจะหยุดกลิ่นกระเทียมไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ยังช่วยให้คุณพาเรือรักล่องลำนาวาไปได้ตลอดรอดฝั่ง
- ช็อคโกแลต
ของหวานจากฟากฝั่งยุโรปที่มีอิทธิพลถึงเมืองไทย นอกจากความหวานลิ้นที่ขึ้นชื่อลือชาแล้ว เคยสงสัยบ้างมั้ยว่า ทำไมคนนิยมมอบช็อคโกแลตให้กับคนรัก นอกเหนือจากดอกกุหลาบอันเป็นที่นิยมแล้ว คำตอบก็คือช็อคโกแลตมีส่วนผสมของทีโอโบรไมน์ (Theobromine) และอัลคาลอยด์ (Alkaloid) ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนคาเฟอีนยังไงยังงั้น เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจึงเกิดความตื่นตัว ไวต่อความรู้สึก และกระตือรือร้นในเรื่องรักมากเป็นพิเศษ ของมันหวานอยู่แล้ว แค่ผลัดกันป้อนก็เพิ่มคุณค่าทางความรู้สึกแล้วล่ะ หรือถ้าจะละเลงตามตัวแล้วให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามากลืนกินก็ได้ ไม่ถือว่าผิดกติการักแต่อย่างใด ที่สำคัญ ในช็อคโกแลตยังมีสารเคมีชนิดหนึ่งชื่อเพนีลีทีลามีน (Phenylethylamine) ซึ่งทำให้ผู้บริโภคช็อคโกแลตเกิดอาการตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก