ผักงอก(sprout)ช่วยชะลอความชรา ป้องกันร่างกายของเราจากโรคเสื่อมทั้งหลาย เช่นโรคหัวใจ อัมพาต โรคข้อ ผิวหนังเหี่ยวย่น ต้อกระจก ป้องกันโรคมะเร็ง และโรคร้าย อย่ารอให้สายเกิน "แก่" ยังใช้ได้สำหรับเจ้าผักงอก(Sprout )ผักต้นเล็กๆ ที่มีอิทธิฤทธิ์จิ๋วแต่แจ๋ว
ในเมืองนอก พวกเขานิยมรับประทานเจ้าผักงอก หรือ Sprout มานานหลายสิบปีแล้วทั้งกินกันเองในครัวเรือนหรือเพาะปลูกจนเป็นอุตสาหกรรมการเกษตร
แต่ในเมืองไทย เรายังไม่คุ้นกับชื่อนี้สักเท่าไร แต่ถ้าบอกว่า มันใช้กรรมวิธีเดียวกับ ถั่วงอก หลายคนร้องอ๋อทันที
พวกมันเกิดจากต้นอ่อนของพืชที่งอกจากเมล็ดที่มีคุณภาพดี ไม่มีสารพิษสะสมอยู่ในเมล็ดพันธุ์ หรือไม่มีการตัดต่อทางพันธุกรรม สามารถนำมารับประทานได้สดๆ และอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์
ใช่ว่าจะจับเมล็ดพันธุ์อะไรก็ได้มาเพาะให้งอกก็ได้เสียเมื่อไร เพราะเมล็ดพันธุ์ที่นำมาผลิตผักงอก(Sprout) ได้ นั้น พวกมันต้องมีคุณลักษณะเฉพาะตัวด้วย เช่น มีความเผ็ด หอม มัน และพกพาความสะอาด ปราศจากโรค และสิ่งเจือปนอื่นๆ และมีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูง สามารถงอกได้สม่ำเสมอ เพื่อจะได้ต้นอ่อนที่มีคุณค่าทางอาหารสูงนั่นเอง
ตัวอย่างเมล็ดพันธุ์ที่จะนำมาผลิตเป็น ผักงอก(Sprout) ได้ เช่น พวกไมโครกรีน อัลฟาฟ่า บล็อกโคลี่ ข้าวสาลี ถั่วเขียว ผักกาดหัว ผักกาดหอม กระเทียมญี่ปุ่น บีทรูต กระเพรา โหระพา ผักชีลาว เป็นต้น
เหตุผลที่มันมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นเพราะความสามารถในการสะสมอาหาร และสังเคราะห์แสงได้มากกว่าผักทั่วไป
พวกมันจึงอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น เอนไซม์ก็จะมีเพิ่มมากขึ้น เพราะผลพวงขณะกำลังจะงอก เมล็ดพืชที่ประกอบไปด้วยแป้ง จะต้องถูกเอนไซม์ภายในตัวของมันเอง สลายแป้งออกมาเป็นพลังงานให้ต้นอ่อนงอกออกมา
พวกมันจึงอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น เอนไซม์ก็จะมีเพิ่มมากขึ้น เพราะผลพวงขณะกำลังจะงอก เมล็ดพืชที่ประกอบไปด้วยแป้ง จะต้องถูกเอนไซม์ภายในตัวของมันเอง สลายแป้งออกมาเป็นพลังงานให้ต้นอ่อนงอกออกมา
นอกจากนั้นยังมีวิตามินเอ บี ซี อี เกลือแร่ รวมถึงแร่ธาตุสำคัญ ซึ่งจะมีเพิ่มมากกว่าเมล็ดเป็นร้อย ๆ เท่า ตามด้วยกรดอะมิโน โปรตีน ไฟโตเคมีคัล ใยอาหาร และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
มันจึงช่วยชะลอความชรา ป้องกันร่างกายของเราจากโรคเสื่อมทั้งหลาย เช่นโรคหัวใจ อัมพาต โรคข้อ ผิวหนังเหี่ยวย่น ต้อกระจก ป้องกันโรคมะเร็ง และโรคร้ายที่เกิดจากไลฟ์สไตล์ที่ผิดเพี้ยนของคนยุคใหม่ และบางพันธุ์สามารถขจัดสารพิษในร่างกายได้ รวมทั้งสามารถฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ได้ด้วย
บางตำราเชื่อว่าหากรับประทาน ผักงอก(Sprout) แล้ว ร่างกายจะได้รับพลังมาก เพราะเมื่อพิจารณาจากเมล็ดพืชขนาดเล็ก เพียงเมล็ดเดียว แต่สามารถงอกออกมาเป็นต้นไม้ทั้งต้น เมล็ดของมันจึงสร้างพลังออกมามหาศาล ฉะนั้น หากเรากินผักงอก(Sprout) ก็เท่ากับได้รับพลังจากธรรมชาติเข้ามาเสริมพลังให้กับตัวเองเต็มที่
เห็นคุณค่า และคิดจะซื้อมารับประทาน ทางผู้เชี่ยวชาญทางการเกษตรจากบริษัทเจียไต๋จำกัด ผู้เพาะเมล็ดพันธุ์ส่งออก แนะนำว่าพวกมันมีราคาขายแพงพอสมควร และความสด อาจไม่ถึงขีดสุดอย่างที่ต้องการ จึงควรเพาะ ผักงอก(Sprout) ด้วยตัวผู้บริโภคเอง และให้กำลังใจว่า ใครๆก็ทำได้ ง่ายจัง
เขาบอกว่า เพียงแค่มีอุปกรณ์ คือ โหลแก้วปากกว้าง และปิดภาชนะด้วยตะแกรงซี่ถี่ พร้อมเตรียมเมล็ดพันธุ์ชั้นดีหลากชนิดที่เราอยากจะเพาะไว้ให้พร้อม
จากนั้นแช่เมล็ดพวกนั้นในน้ำสะอาดเป็นระยะเวลา 3-4 ชั่วโมง และถ่ายน้ำออก เสร็จแล้วก็วางโหลแก้วในลักษณะเอียง แล้วถ่ายน้ำเข้าออกวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น ทำอย่างนี้ซ้ำๆ เป็นเวลาประมาณ 7 วัน จะได้ ผักงอก(Sprout) ฟูฟ่องเต็มขวดแก้วมารับประทาน
พวกเขาแนะนำเมนูอาหารว่าง หน้าตาน่ารักน่ากิน อย่าง เครกเกอร์สเปราท์ ที่ใช้กรรมวิธีจัดเตรียมไม่ยุ่งยากและใช้ส่วนผสมน้อยที่สุด แค่มีขนมปังเครกเกอร์กลม เชดดาร์ชีส มายองเนสไร้ไขมัน และพระเอกของงาน คือ เจ้าผักงอก(Sprout)
ขั้นตอนการปรุงแสนง่าย เริ่มจากวางเครกเกอร์ก่อน แล้วขยุมผักงอก(Sprout) เป็นหย่อมๆ บนขนมปังกรอบ จากนั้นวางเชดดาร์ชีสหั่นชิ้นเล็ก และบีบมายองเนสลงไปตามชอบ จัดวางให้งดงามพร้อมเสิร์ฟ
นอกจากนั้น ยังสามารถนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหาร Raw Food หรือ ปอเปี๊ยะสด สลัด เป็นผักโรย ผักประดับ หรือจะคั้นสดดื่มได้ทันที
อย่างนี้ คงต้องเปลี่ยนสำนวนจาก เล็กพริกขี้หนู เป็น เล็กผักงอก แล้วล่ะ
- เมนู ผักงอก(Sprout) -
ปอเปี๊ยะสด
เครื่องปรุง
- แผ่นปอเปี๊ยะ, ผักงอก(Sprout) นานาชนิด, เต้าหู้, แตงกวา, แครอท
- แผ่นปอเปี๊ยะ, ผักงอก(Sprout) นานาชนิด, เต้าหู้, แตงกวา, แครอท
เวลาเสิร์ฟ : จับเอาแผ่นปอเปี๊ยะมาวาง ใส่ไส้ต่างๆที่เตรียมไว้ ห่อแน่นๆ ราดด้วยน้ำปอเปี๊ยะ
น้ำราดปอเปี๊ยะ
-น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย
-น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
-ส้มมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 1/4 ถ้วย
-น้ำเปล่า 1 ถ้วย
-ผงพะโล้ 1/2 ช้อนชา
-เกลือป่น 2 ช้อนชา
-แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย
-น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
-ส้มมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 1/4 ถ้วย
-น้ำเปล่า 1 ถ้วย
-ผงพะโล้ 1/2 ช้อนชา
-เกลือป่น 2 ช้อนชา
-แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. เคี่ยวส่วนผสมทั้งหมดในหม้อ ตั้งไฟอ่อนๆ เคี้ยวพอให้ข้นเป็นน้ำตาลออกเข้มหน่อย สักพัก ชิมรสดูให้ออกหวาน เปรี้ยว เค็ม ตามลำดับ
1. เคี่ยวส่วนผสมทั้งหมดในหม้อ ตั้งไฟอ่อนๆ เคี้ยวพอให้ข้นเป็นน้ำตาลออกเข้มหน่อย สักพัก ชิมรสดูให้ออกหวาน เปรี้ยว เค็ม ตามลำดับ
2. ละลายแป้งมันในน้ำสะอาด ค่อยๆใส่ตอนที่ส่วนผสมเดือด แล้วคนเร็วๆ
ที่มา : ครัวไกลบ้าน,http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/health/20110128/372764/Sprout-...%E0%B8%89%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94-%28%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%29-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%86.html